เมื่อใดที่ครูค้นพบสุดยอดวิธีสอน ที่สามารถนำไปใช้ได้กับนักเรียนทุกคน เมื่อนั่น จะมีนักเรียนอย่างน้อย 1 คนที่เรียนไม่รู้เรื่องจากวิธีสอนนี้ สอบปลายภาควันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 9.00 - 12.00 น ครับ

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คำถาม hard disk จะเต็ม


มีคำถามจาก section โน้นว่า

เลยนำบทความที่ครูตอบ มาแลกเปลี่ยนกับ section นี้
เผื่อจะได้อะไรจากมันบ้าง

...
"อาจารย์ค่ะ เครื่องที่หนูใช้ drive c มันไกล จะเต็มแล้วค่ะ ทำยะงไงดีค่ะ"
(ถ้ามันไกลจะเต็ม แสดงว่ายังอีกนาน แต่ถ้า มันใกล้จะเต็ม ก็ต้องปาดเหงื่อกันละ)

จะเต็มคือเหลือเท่าไหร่ละ
ดูความจุ hard disk ที่ my computer กัน
http://lh6.ggpht.com/_FEN1UEKpykQ/TOxzTNEhWuI/AAAAAAAADYQ/8rLa4h1atEI/1.jpg
ในภาพ drive C ของครูเหลือ 26 GB

วิธีแก้ง่ายๆ  คือ ซื้อใหม่ (55)

วิธีต่อไป ลบที่ไม่จำเป็นทิ้งซะ อย่าเป็น คนบ้าสมบัติ (55)

2 วิธีไม่ถูกใจ

อาจจะเหลือวิธีเล็ก ๆ พอช่วยได้นิดนึง (ถ้ายังไม่ได้ทำไปก่อนแล้ว)
ปรับลดขนาดถังขยะ recycle bin
เริ่มเลย
mouse ชี้ที่ recycle bin แล้วขอดู properties (ต้องทำเป็นแล้ว เรียนวิชานี้แล้ว)
http://lh5.ggpht.com/_FEN1UEKpykQ/TOxzTiHqf5I/AAAAAAAADYU/bp-jWk1MgnA/2.jpg
ที่ tab  Global ให้ click ที่ configure drive independently ฉันจะกำหนดค่าพื้นที่ถังขยะในแต่ละ drive เอง
เพราะตอนนี้ค่าเป็น 10 เปอร์เซนต์
http://lh4.ggpht.com/_FEN1UEKpykQ/TOxzT3Ik9WI/AAAAAAAADYY/f39cvggPMxg/3.jpg
แล้ว click ต่อที่ tab   C:
http://lh5.ggpht.com/_FEN1UEKpykQ/TOxzU7DhGEI/AAAAAAAADYc/JQyyddLQqxM/4.jpg
ในภาพ C มีความจุทั้งหมด 48.9 สงวนให้เป็นถังขยะ 3.99 คิดเป็น 10 เปอร์เซนต์
เราก็จะไปขอแบ่งจาก 3.99 นี้มาได้หน่อยนึง (ถ้า งก ยังไงก็ไม่พอ)
http://lh4.ggpht.com/_FEN1UEKpykQ/TOxzWc7ew4I/AAAAAAAADYg/NCpmbjJQTxY/5.jpg
ก็เลื่อนแถบเลื่อนจาก 10 เปอร์เซนต์ ลงไปซะ 1 เปอร์เซนต์ คิดเป็น 501 MB ก็จะได้ hard disk
เพิ่มมาร่วม ๆ 3 GB
ก็พอจะมีความสุขไปได้ระยะนึง ก็เก็บเงินซะ เพื่อซื้อ hard disk เพิ่ม
หากเป็น notebook จะซื้อเป็น external harddisk แล้วย้ายไฟล์สมบัติทั้งหลายไปเก็บไว้ ก็ได้

ใครมีขอเสนอแนะ เชิญเลย

18 ความคิดเห็น:

  1. ส่วนมากหนูจะไม่ได้เก็บข้อมูลไว้ในไดร์ฟ c ค่ะ
    อาจจะเป็นวิธีที่ผิดไปบ้างนะคะ แต่ก็ได้ผลดี
    เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุซะมากกว่า ..
    เพราะถ้าข้อมูลเต็ม หนูจะ save ไว้ในแผ่นซีดีค่ะ
    เก็บรักษาข้อมูลได้ง่ายและกันข้อมูลหายหากเครื่องเป็นไวรัสขึ้นมา

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของอาจารย์นะคะ
    หนูอาจจะต้องใช้วิธีการแก้ทางต้นเหตุของอาจารย์บ้างแล้วค่ะ :)

    ตอบลบ
  2. ส่วนมากหนูจะเก็บข้อมูลต่างๆไว้ใน drive D มากกว่าค่ะ เพราะทางร้านเขาบอกหนูมาว่าถ้าเก็บไว้ใน drive C เวลาข้อมูลมันใกล้จะเต็ม มันจะทำให้เครื่องอืด สะดุดบ้าง และง่ายกับการที่เราเอาไปลงwindowsใหม่ด้วยค่ะ ไม่ต้องเสียเวลามาลบข้อมูลสำคัญๆของเรา

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณอาจารย์มากครับ สำหรับเทคนิคดีๆต่างๆ ที่อาจารย์หมั่นสรรหามาให้กับพวกเรา ผมคิดว่าเทคนิคต่างๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับพวกเราอย่างแน่นอนไม่ตอนนี้ ก็ในอนาคตข้างหน้าครับ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณมากค่ะอาจารย์สำหรับข้อมูลดีดีที่นำมาแชร์
    ส่วนมากจะเก็บไว้ในdrive D ค่ะ เพราะ Drive c
    เวลาฟอร์แมตเครื่องข้อมูลก็จะหายหมดเลยอ่าค่ะ
    แบบว่าเคยเก็บมาแล้ว คอมติดไวรัสแล้วเอาเครื่องไปซ้อมที่ร้าน
    เกิดอาการเสียดายข้อมูลสุด ๆ
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสอนให้รู้ว่า. ..
    ประสบการณ์ สอนอะไรได้มากจริง ๆ ค่ะ

    :"))))

    ตอบลบ
  5. เด็ก ๆ ทำถูกแล้ว เก็บไว้ใน D ที่สำคัญ ๆ ก็ backup ไว้ใน external drive หรือแผ่น CD, DVD

    ตอบลบ
  6. ส่วนมากหนูก็เก็บไว้ใน drive D เหมือนกันค่ะ เพราะเคยเก็บที่ drive C แล้วมันอืด แต่เท่าที่เคยได้ยินจากพี่มา ก็คือ
    1. ไปที่ C:\WINDOWS\Prefetch ลบไฟล์ทั้งหมดทิ้งไปเพราะมันไฟล์เคชของโปรแกรมที่เราเปิดใช้งานบ่อยๆจะถูกเก็บใว้ที่นี่ หรือ
    2. ปิดการใช้งานในส่วนของ System Restore โดยคลิกขวาที่ My computer-->Properties-->System Restore
    เลือก turn off system restore on all drive หากเราปิดส่วนนี้ฮาร์ดดิสจะมีที่ว่างเพิ่มขึ้น 5Gb ค่ะ

    ตอบลบ
  7. เช่นกันค่ะหนูเคยเก็บข้อมูลไว้ที่drive Cค่ะ พอไวรัสกินต้องฟอแมตเครื่องข้อมูลก็หายหมด จากนั้นก็ยังไม่เข็ดค่ะเก็บไว้ที่drive Cต่อ วันนึงอยากเปลี่ยนwindowsข้อมูลก็หายหมด(เจ็บแล้วไม่จำเข้าขั้นโ..555) จากนั้นก็ฉลาดขึ้น(นิสนึง555)เก็บข้อมูลไว้drive Dตลอดๆและพอมันเริ่มเยอะก็แบ่งเก็บไว้ในCDหรือไม่ก็Flash driveค่ะ
    วิธีที่1ของบอล(ปิยะนาฏ)น่าสนอ่ะ ลบทิ้งซะเลย555
    อันไหนไม่ใช้ไม่สำคัญก็ลบทิ้งค่ะ:D

    ตอบลบ
  8. ปิยะนาฎ สุดยอดครับ ส่วนของ prefetch นั่นเป็นความรู้เก๋ามาก คงมีโอกาสพูดถึงต่อไป
    ปิด system restore ต้องทำเพราะเหตุของไวรัส ส่วนได้พื้นที่เพิ่ม ความรู้ใหม่ครับ
    ลออรัตน์ แบ่งปันได้ถูกแล้ว คง idea เดียวกันกับคนที่ไม่เก็บของไว้ที่ C
    สำหรับครู คงต้องสารภาพว่า มักจะเก็บไว้บน desktop ซึ่งก็เป็นส่วน 1 ของ C อยู่ดี เพราะ สะดวกดี
    พอโดนไวรัส (ทุกท่านที่ ment ในส่วนนี้น่าจะโดนกันหมดแล้ว) ก็ ..ไม่น่าเลยเรา

    ตอบลบ
  9. ส่วนมากหนูจะเก็บข้อมูลไว้ในไดร์ฟ D กับ E
    ส่วนไดร์ฟ C จะมีแต่โปรแกรม ตอนเอาไปซ่อมจะได้บอกให้เขา backup ข้อมูลไว้ให้ ข้อมูลสำคัญจะได้ไม่หาย

    ความรู้ใหม่ที่ปิยะนาฎให้มาน่าสนใจดีคะ ก็เพิ่งรู้ว่ามันเป็นงี้เอง

    ตอบลบ
  10. อารยา ก็ เกทับมาเลยว่า เครื่องฉัน hard disk ก้อนโต เลยแบ่งย่อยเป็นหลายลูก มีออกไปถึง D ถึง E เลย
    ดีมากครับ

    ตอบลบ
  11. เช่นกันค่ะ......หนูก็เก็บงานไว้ใน ไดร์ฟ D
    เพราะถ้าเก็บไว้ในไดร์ฟ c แล้วถ้าเครื่องติดไวลัส
    งานทุกอย่างก็จะหายไปค่ะ

    ตอบลบ
  12. เช่นกันค่ะ ส่วนมากหนูก็เก็บข้อมูลต่างๆี่ที่สำคัญไว้ใน ไดร์ฟ D
    เคยเก็บไว้ในไดร์ฟ C แล้วงานหายหมด ตอนเครื่องเป็นไวรัส
    เสียดายมาก

    ตอบลบ
  13. ส่วนมากหนูก็เก็บไว้ในไดร์ฟ D นะค่ะอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลอะไรก็ตาม
    แต่ถ้าเวลาหนูโหลดเกมส์หรือว่าโหลดโปรแกรมมาใส่ในเครื่องหนูก็จะเก็บไว้ในไดร์ฟ c นะค่ะ แต่หนูคิดว่าหนุจะย้ายไปให้หมดละค่ะ เพราะว่าเวลาเอาคอมไปซ่อม เดี๋ยวข้อมูลจะหายหมดค่ะ

    ตอบลบ
  14. เคยมีประสบการณ์ที่เก็บทุกอย่างไว้ drive c
    เหมือนกันค่ะ แล้วมันก็มีข้อเสียหลายอย่าง
    อย่างที่ทุกคนบอกทั้งอืดและโอกาสที่ข้อมูลจะหาย
    หากเครื่องติดไวรัส ก็เลยเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเก็บไว้
    drive D และdrive E แทน
    และขอบคุณข้อมูลดี ๆ เป็นประโชนย์จากทุกคนค่ะ
    สามารถนำมาปรับใช้กับเครื่องตัวเองได้มาก

    ตอบลบ
  15. เครื่องหนูส่วนมากก็จะเก็บข้อมูลไว้ drive c น่ะค่ะ พอมันเต็มหนูก็จะไลน์ใส่แผ่น DVDไว้ค่ะ แต่ถ้าไม่ทันระวังบางทีเครื่องโดนไวรัสกิน ก็หายหมดๆ พอหลังๆมา หนูก็ทราบจากพี่ว่า ให้เอาข้อมูลสำคัญมาไว้ที่ drive D เพราะเวลาเครื่องมีปัญหา ข้อมูลจะได้ไม่หาย ค่ะ

    ตอบลบ
  16. ฐิติมา เขามีกฏในการตั้งชื่อ เลขที่ ใหม่แล้วนะ อ่านบทความหน่อย จะได้เปลี่ยนซะ
    วิชชุลดา ทราบไหมว่า drive C เราสามารถแบ่งซอยออกไปเป็น C และ D หรือ และ E ได้ เครื่องเพื่อน ๆ เขาจึงมี drive D กันนะ

    ตอบลบ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น