วิชา AC 219 ตอนที่ 1 เทอม 2 2553 คณะบัญชีฯ มหาวิทยาลัยพายัพ
เมื่อใดที่ครูค้นพบสุดยอดวิธีสอน ที่สามารถนำไปใช้ได้กับนักเรียนทุกคน เมื่อนั่น จะมีนักเรียนอย่างน้อย 1 คนที่เรียนไม่รู้เรื่องจากวิธีสอนนี้ สอบปลายภาควันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 9.00 - 12.00 น ครับ
แหม่! คนส่วนใหญ่ก็ต้องชอบแบบแรกอยู่แล้วซิครับเนี่ย Oh Oh Oh
แน่นอนค่ะ... .คนส่วนใหญ่มักจะชอบทำงานสบายๆและก็อยากได้เงินเยอะๆค่ะแต่งานในแบบที่หนึ่งไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะมีแต่ "งานหนัก เงินน้อย"
แบบที่ 1 งานสบายเงินดี : ก็อย่างเช่น ค้ายาบ้า สบาย ๆ ฮ่า ๆ เงินดีด้วยแต่ผิดกฏหมาย หรือไม่ก็ผู้หญิงที่ทำงานบริการ ตามข่าวที่ออกทั่วไปแสดงให้เห็นว่า เหตุผลที่ บุคคลบางกลุ่มเลือกทำงานประเภทนี้เพราะเงินดีแบบที่ 2 งานหนัก เงินดี : งานหนักในที่นี้ หนูคิดว่า็ไม่ได้หมายความว่า. ..เป็นงานที่ต้องใช้แรง แต่หมายถึงการใช้สมองในกระบวนการความคิดมากกว่าอย่างคนที่จบการศึกษาสูง ๆ เป็นผู้บริหาร ก็ต้องเป็นผู้คิดวิธีบริหารบริษัทให้มีความเจริญก้าวหน้า มีผลกำไร หากคิดดี บริหารดี ผลตอบแทนที่ได้รับนั้น ก็ย่อมดีตามไปด้วยเช่นกันแบบที่ 3 งานสบาย เงินน้อย : เป็นไปตามเกณฑ์ค่ะ ฮ่า ๆ ก็งานสบาย ๆ เป็นงานสุจริตทั่วไป สามารถมองในแง่มุมของการศึกษาที่ว่า เรียนแค่ไหน เงินเดือนก็ได้ตามวุฒิ ก็เหมือนกับการทำงาน ถ้าหากคุณไม่มีความสามารถหรือมีน้อย ผลตอบแทนนั้นก็ย่อมน้่อยตามไปด้วยแบบที่ภ งานหนัก เงินน้อย : ประเด็นนี้ หนูคิดถึงกลุ่มคนที่ใช้แรงงานค่ะ อาทิเช่น กรรมกร ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ หนูเห็นในละครที่เคยดูมาอ่าค่ะ(หนูไม่ได้ติดละครน่ะค่ะ) อิอิ แต่เท่าที่เห็น เค้าได้เงินน้อยจิง ๆ เหนื่อยทั้งวัน แต่ได้เงินแค่ ร้อยกว่าบาท ถ้าเป็นหนู หนูคงอยากทำงานแบบที่สองอ่าค่ะ . ..!!
ปริญญา จะไม่วิเคราะห์หน่อยเหรอรัตติยา ก็ วิเคราะห์ มานิดนึง ยังไม่ทันหนุกเลยดารุณี วิเคราะห์ได้ครบ เลือกคำสวย เหมาะสมมาก "เงินเดือนตามวุฒิ" ครูคิดว่า ความสวยของคนอยู่ที่ความคิดนี้แหละ สวยงาม สวยงาม
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ถ้าในโลกของความเป็นจริงแล้วละก็ คงจะเป็นงานหนักละก็เงินน้อยละมั้งคร่าเพราะว่าหากค่าจ้างสูงนายจ้างคงไม่ จ้างเพราะว่าทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากเนื่องจากในการจ้างคนงานไม่ได้จ้างเพียง คนเดียวแต่ต้องจ้างจำนวนมากเพราะฉะนั้นจึงต้องจ่ายค่าจ้างไม่มากเท่าที่ควร และเมื่อจ้างมาแล้วก็ต้องใช้งานให้คุ้มกับค่าจ้างด้วย ส่วนตัวดิฉันเองและก็คิดว่าส่วนใหญ่ก็จะเลือกเหมือน ๆ กันก็คืองานก็สบาย และเงินดีอีกต่างหากใคร ๆ ก็ชอบแต่คงไม่มีงานที่ว่าหรอกคะ เพราะว่าเค้าจ้างเราไปแล้วเค้าก็ต้องใช้เราใหุ้้คุ้มกับค่าจ้าง ถ้าจ้างไปสบาย ๆเค้าคงจะทำเองดีกว่าหากเราสบายแต่เงินดีึคงต้องเปิดกิจการเป็นของตัวเอง แล้่วละคะจะได้บริหารอย่างเดียว งานก็ไม่หนักเท่าไหร่นัก และหากบริืหารดีก็จะได้กำไรมากมายอีกด้วย
ทำงานบล็อกงานที่ 2เสร็จแล้วคะ่
http://daos1ac2192553.blogspot.com/
ดีใจที่นงลักษณ์ยังไม่ละความพยายามนะครับ งานชิ้นต่อไปคืองาน link ก็ทำง่าย ๆ เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ และชิ้นต่อ ๆ ไป ก็ง่ายหมดเลย เร่งมือเข้าก่อนจะเข้าสู่อาทิตย์สุดท้ายซึ่งจะมีงานอื่น ๆ ในวิชาอื่น ๆ อีกมากมายรวีวรรณ นายจ้างก็คงต้องการลูกจ้างที่มีความสามารถสูง สามารถทำงานให้บริษัทฯ ได้ และุถ้าเป็นบริษัทฯ ดีๆ ก็สามารถจ้างได้ เงินเดือนเป็นแสน ก็ไม่มีปัญหา เพราะคุ้มค่าอยากให้งานที่ชอบ กับ งานที่จะทำในความเป็นจริง เป็นตัวเดียวกัน เราจะได้ทำงานนั่น ๆ อย่างมีความสุข
ผมขอแบ่งงานทั้ง 4 แบบ ข้างต้นของอาจารย์ ออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่งานที่มีความสำคัญ และสอดคล้องกับความต้องการของโลกธุรกิจในอนาคตซึ่งนั่นก็คือ กลุ่มงานในแบบที่ 1 และ 2 ส่วนงานอีกกลุ่มหนึ่งนั้นก็จะเป็นกลุ่มอาชีพที่อยู่ตรงกันข้ามกับงานในกลุ่มที่ 1 คือกลุ่มงานที่ไม่ค่อยมีความสำคัญธุรกิจ ธุรกิจสามารถหาคนมาทดแทนการทำงานชนิดนั้นๆ ได้ง่าย เป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะความสามารถมากมายนัก ด้วยการจัดกลุ่มดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้ คนที่ทำงานอยู่ในกลุ่มงานแรกได้รับรายได้จากการทำงานที่สูง คุ้มค่ากับกำลังแรงงานและระยะเวลาที่ได้สูญเสียไป ส่วน ผู้ที่ทำงานอยู่ในกลุ่มที่สองกลับมีรายได้ที่อัตคัด ขัดสน แม้ว่าจะขยันทำงานให้มากซักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันที่จะได้รับรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงค์ชีพในสังคมอย่างสะดวกสะบาย ฉะนั้นหากเป็นคนที่ตระหนักถึงงานอาชีพของชีวิตในความเป็นจริงแล้วละก็ คนคนนั้นก็จะต้องพยายามศึกษาถึงแนวโน้มความต้องการของธุรกิจแล้วพยายามพัฒนาตัวเองให้มีทักษะและความสามารถที่มากเพียงพอตามที่โลกธุรกิจต้องการบุคคลผู้นั้นจึงจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องตกเป็นภาระของคนที่ตัวเองรักหรือคนในครอบครัวของตัวเอง ผมคิดว่าน่าจะประมาณนี้นะครับ (เวอร์ไปหรือเปล่าครับ? แฮะๆๆๆ)
ปริญญา คิดว่า บัญชีคือคำตอบของสมการข้างต้นของปริญญาหรือเปล่าละ
ก่อนหน้านี้ผมคิดว่า เฉพาะวิชาบัญชีแต่เพียงอย่างเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้วแต่ภายหลังจากที่ได้ลงเรียนวิชา AC 219 ของอาจารย์ทำให้ผมเกิดแนวความคิดว่านอกจากจะต้องเชี่ยวชาญในวิชาบัญชีแล้วยังจะต้องมีทักษะความสามารถในเรื่องของ IT และ ภาษาอังกฤษด้วย ฮุๆๆๆ
แน่นอนค่ะ ถ้าเป็นหนูก็อยากได้งานสบายๆเงินดี อิอิ แต่คงหายากเพราะส่วนมากก็มีแต่งานหนัก เงินดี , งานสบาย เงินน้อย, งานหนักเงิน น้อย ซึ่งแต่ละงานก็มีความแตกต่างกันไปตามวุฒิการศึกษา เช่น ข้าราชการ เงินเดือนอาจไม่มาก แต่เมื่อเกษียณแล้ว มีสวัสดิการเยอะ สบายในปั้นปลายของชีวิตค่ะ แต่ทุกอาชีพต้องมีความตั้งใจความขยัน ความอดทน ความรับผิดชอบ ความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเราค่ะ
ฐิติมาคงต้องแสดงตนในเรื่องความสม่ำเสมอ ความมุ่งมั่นที่จะไปถึงเป้าหมายอย่างจริงจัง เพื่อไปถึงจุดหมายที่ต้องการนะงาน if-then ยังไม่มาเลย
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น
แหม่! คนส่วนใหญ่ก็ต้องชอบแบบแรกอยู่แล้วซิครับเนี่ย Oh Oh Oh
ตอบลบแน่นอนค่ะ... .คนส่วนใหญ่มักจะชอบทำงานสบายๆและก็อยากได้เงินเยอะๆค่ะ
ตอบลบแต่งานในแบบที่หนึ่งไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะมีแต่ "งานหนัก เงินน้อย"
แบบที่ 1 งานสบายเงินดี : ก็อย่างเช่น ค้ายาบ้า สบาย ๆ ฮ่า ๆ เงินดีด้วย
ตอบลบแต่ผิดกฏหมาย หรือไม่ก็ผู้หญิงที่ทำงานบริการ ตามข่าวที่ออกทั่วไป
แสดงให้เห็นว่า เหตุผลที่ บุคคลบางกลุ่มเลือกทำงานประเภทนี้เพราะเงินดี
แบบที่ 2 งานหนัก เงินดี : งานหนักในที่นี้ หนูคิดว่า็ไม่ได้หมายความว่า. ..
เป็นงานที่ต้องใช้แรง แต่หมายถึงการใช้สมองในกระบวนการความคิดมากกว่า
อย่างคนที่จบการศึกษาสูง ๆ เป็นผู้บริหาร ก็ต้องเป็นผู้คิดวิธีบริหารบริษัทให้มีความเจริญก้าวหน้า มีผลกำไร หากคิดดี บริหารดี ผลตอบแทนที่ได้รับนั้น ก็ย่อมดีตามไปด้วยเช่นกัน
แบบที่ 3 งานสบาย เงินน้อย : เป็นไปตามเกณฑ์ค่ะ ฮ่า ๆ ก็งานสบาย ๆ เป็นงานสุจริตทั่วไป สามารถมองในแง่มุมของการศึกษาที่ว่า เรียนแค่ไหน เงินเดือนก็ได้ตามวุฒิ ก็เหมือนกับการทำงาน ถ้าหากคุณไม่มีความสามารถหรือมีน้อย ผลตอบแทนนั้นก็ย่อมน้่อยตามไปด้วย
แบบที่ภ งานหนัก เงินน้อย : ประเด็นนี้ หนูคิดถึงกลุ่มคนที่ใช้แรงงานค่ะ อาทิเช่น กรรมกร ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ หนูเห็นในละครที่เคยดูมาอ่าค่ะ(หนูไม่ได้ติดละครน่ะค่ะ) อิอิ แต่เท่าที่เห็น เค้าได้เงินน้อยจิง ๆ เหนื่อยทั้งวัน แต่ได้เงินแค่ ร้อยกว่าบาท
ถ้าเป็นหนู หนูคงอยากทำงานแบบที่สองอ่าค่ะ . ..!!
ปริญญา จะไม่วิเคราะห์หน่อยเหรอ
ตอบลบรัตติยา ก็ วิเคราะห์ มานิดนึง ยังไม่ทันหนุกเลย
ดารุณี วิเคราะห์ได้ครบ เลือกคำสวย เหมาะสมมาก "เงินเดือนตามวุฒิ"
ครูคิดว่า ความสวยของคนอยู่ที่ความคิดนี้แหละ สวยงาม สวยงาม
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบถ้าในโลกของความเป็นจริงแล้วละก็ คงจะเป็นงานหนักละก็เงินน้อยละมั้งคร่าเพราะว่าหากค่าจ้างสูงนายจ้างคงไม่ จ้างเพราะว่าทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากเนื่องจากในการจ้างคนงานไม่ได้จ้างเพียง คนเดียวแต่ต้องจ้างจำนวนมากเพราะฉะนั้นจึงต้องจ่ายค่าจ้างไม่มากเท่าที่ควร และเมื่อจ้างมาแล้วก็ต้องใช้งานให้คุ้มกับค่าจ้างด้วย ส่วนตัวดิฉันเองและก็คิดว่าส่วนใหญ่ก็จะเลือกเหมือน ๆ กันก็คืองานก็สบาย และเงินดีอีกต่างหากใคร ๆ ก็ชอบแต่คงไม่มีงานที่ว่าหรอกคะ เพราะว่าเค้าจ้างเราไปแล้วเค้าก็ต้องใช้เราใหุ้้คุ้มกับค่าจ้าง ถ้าจ้างไปสบาย ๆเค้าคงจะทำเองดีกว่าหากเราสบายแต่เงินดีึคงต้องเปิดกิจการเป็นของตัวเอง แล้่วละคะจะได้บริหารอย่างเดียว งานก็ไม่หนักเท่าไหร่นัก และหากบริืหารดีก็จะได้กำไรมากมายอีกด้วย
ตอบลบทำงานบล็อกงานที่ 2เสร็จแล้วคะ่
ตอบลบhttp://daos1ac2192553.blogspot.com/
ตอบลบดีใจที่นงลักษณ์ยังไม่ละความพยายามนะครับ งานชิ้นต่อไปคืองาน link ก็ทำง่าย ๆ เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ และชิ้นต่อ ๆ ไป ก็ง่ายหมดเลย เร่งมือเข้าก่อนจะเข้าสู่อาทิตย์สุดท้ายซึ่งจะมีงานอื่น ๆ ในวิชาอื่น ๆ อีกมากมาย
ตอบลบรวีวรรณ นายจ้างก็คงต้องการลูกจ้างที่มีความสามารถสูง สามารถทำงานให้บริษัทฯ ได้ และุถ้าเป็นบริษัทฯ ดีๆ ก็สามารถจ้างได้ เงินเดือนเป็นแสน ก็ไม่มีปัญหา เพราะคุ้มค่า
อยากให้งานที่ชอบ กับ งานที่จะทำในความเป็นจริง เป็นตัวเดียวกัน เราจะได้ทำงานนั่น ๆ อย่างมีความสุข
ผมขอแบ่งงานทั้ง 4 แบบ ข้างต้นของอาจารย์ ออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่งานที่มีความสำคัญ และสอดคล้องกับความต้องการของโลกธุรกิจในอนาคตซึ่งนั่นก็คือ กลุ่มงานในแบบที่ 1 และ 2 ส่วนงานอีกกลุ่มหนึ่งนั้นก็จะเป็นกลุ่มอาชีพที่อยู่ตรงกันข้ามกับงานในกลุ่มที่ 1 คือกลุ่มงานที่ไม่ค่อยมีความสำคัญธุรกิจ ธุรกิจสามารถหาคนมาทดแทนการทำงานชนิดนั้นๆ ได้ง่าย เป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะความสามารถมากมายนัก ด้วยการจัดกลุ่มดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้ คนที่ทำงานอยู่ในกลุ่มงานแรกได้รับรายได้จากการทำงานที่สูง คุ้มค่ากับกำลังแรงงานและระยะเวลาที่ได้สูญเสียไป ส่วน ผู้ที่ทำงานอยู่ในกลุ่มที่สองกลับมีรายได้ที่อัตคัด ขัดสน แม้ว่าจะขยันทำงานให้มากซักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันที่จะได้รับรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงค์ชีพในสังคมอย่างสะดวกสะบาย ฉะนั้นหากเป็นคนที่ตระหนักถึงงานอาชีพของชีวิตในความเป็นจริงแล้วละก็ คนคนนั้นก็จะต้องพยายามศึกษาถึงแนวโน้มความต้องการของธุรกิจแล้วพยายามพัฒนาตัวเองให้มีทักษะและความสามารถที่มากเพียงพอตามที่โลกธุรกิจต้องการบุคคลผู้นั้นจึงจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องตกเป็นภาระของคนที่ตัวเองรักหรือคนในครอบครัวของตัวเอง ผมคิดว่าน่าจะประมาณนี้นะครับ (เวอร์ไปหรือเปล่าครับ? แฮะๆๆๆ)
ตอบลบปริญญา คิดว่า บัญชีคือคำตอบของสมการข้างต้นของปริญญาหรือเปล่าละ
ตอบลบก่อนหน้านี้ผมคิดว่า เฉพาะวิชาบัญชีแต่เพียงอย่างเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้วแต่ภายหลังจากที่ได้ลงเรียนวิชา AC 219 ของอาจารย์ทำให้ผมเกิดแนวความคิดว่านอกจากจะต้องเชี่ยวชาญในวิชาบัญชีแล้วยังจะต้องมีทักษะความสามารถในเรื่องของ IT และ ภาษาอังกฤษด้วย ฮุๆๆๆ
ตอบลบแน่นอนค่ะ ถ้าเป็นหนูก็อยากได้งานสบายๆเงินดี อิอิ
ตอบลบแต่คงหายากเพราะส่วนมากก็มีแต่งานหนัก เงินดี , งานสบาย เงินน้อย, งานหนักเงิน น้อย ซึ่งแต่ละงานก็มีความแตกต่างกันไปตามวุฒิการศึกษา เช่น ข้าราชการ เงินเดือนอาจไม่มาก แต่เมื่อเกษียณแล้ว มีสวัสดิการเยอะ สบายในปั้นปลายของชีวิตค่ะ แต่ทุกอาชีพต้องมีความตั้งใจความขยัน ความอดทน ความรับผิดชอบ ความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเราค่ะ
ฐิติมาคงต้องแสดงตนในเรื่องความสม่ำเสมอ ความมุ่งมั่นที่จะไปถึงเป้าหมายอย่างจริงจัง เพื่อไปถึงจุดหมายที่ต้องการนะ
ตอบลบงาน if-then ยังไม่มาเลย